ดร ยัง เมื่อสูงอายุและร่างกายแก่ตัวขึ้น ความเสียหายระดับเซลล์สะสมมากเข้า ทั้งร่างกายก็ผลิตหรือสกัดแอนตี้ออกซิแดนท์จากอาหารได้น้อยลง การชะลอความแก่ฟื้นร่างกายให้อ่อนวัยใหม่จึงต้องกินแอนตี้ออกซิแดนท์เข้าไปมากๆ ในปริมาณสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานต่อวันที่กำหนดไว้ (RDA หรือ Recommended Daily Intake) ที่เรียกว่า mega–dose จึงจะได้ผล ดร ยัง
เมื่อร่างกายจำเป็นต้องใช้วิตามินและแร่ธาตุในปริมาณสูงเช่นนี้ การอาศัยวิตามินและแร่ธาตุจากอาหารเท่านั้นย่อมไม่พอ จำเป็นต้องกินวิตามินและเกลือแร่เสริม (supplement) เป็นประจำ ผลการวิจัยได้ยืนยันว่าการกินแอนตี้ออกซิแดนท์ในขนาด mega–dose ช่วยชะลอความแก่และป้องกันโรคเสื่อมสภาพอื่นๆ ได้ เช่น
– คนกินวิตามินประจำ โดยเฉพาะวิตามินซี และวิตามินอี อายุยืนกว่าผู้ไม่กินหลายปี
– ระบบภูมิคุ้มกันโรคที่เสื่อมลงตามวัยสามารถฟื้นคืนสภาพได้ด้วยการกินวิตามิน ซึ่งอาจเป็นเพียงวิตามินรวมธรรมดา
– ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจมีแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียม ในเลือดและเซลล์ต่ำกว่าคนปกติ
– คนไข้มะเร็งก็เป็นเช่นเดียวกัน มีแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียม ในเลือดและเซลล์ต่ำกว่าคนปกติ
– ขาดวิตามินบีต่างๆ ทำให้สมองเสื่อม หลอดเลือดไม่ดี หัวใจวาย และมะเร็งบางชนิด กินวิตามินบีแล้วป้องกันหรือลดอาการเหล่านี้ได้มาก ดร ยัง
– ขาดแคลนโครเมียมแม้เพียงน้อยนิดก็ทำให้เป็นเบาหวานและโรคหลอดเลือดหัวใจ
– กินแคลเซียมและวิตามินดีเสริมเพียง 1 ปี ช่วยป้องกันกระดูกหักได้มาก แม้ในผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป
– กินวิตามินเสมอ ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังลง 70 เปอร์เซ็นต์ และลดความเสี่ยงเป็นต้อกระจกลง 27 เปอร์เซ็นต์
ดร ยัง อย่างไรก็ดี การกินวิตามินและเกลือแร่เสริมในขนาดมากๆ ก็ถูกโต้แย้งว่า ส่วนที่เกินความจำเป็นของร่างกายจะสะสมมาก จนเป็นอันตรายได้ แต่ก็ยังพิสูจน์ลงไปได้ไม่แน่ชัดทั้งหมด มีเพียงบางตัวเท่านั้นที่ผลการวิจัยยืนยันว่า กินมากเกินไปมีพิษกับร่างกาย เช่น โครเมียม สังกะสี ซีลีเนียม และวิตามินเอ เป็นต้น แต่ขนาดที่พบว่าอาจเกิดผลกระทบกับร่างกายก็มักสูงกว่าขนาดมาตรฐาน เช่น พบว่ากินสังกะสีเกิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน ทำให้ร่างกายดูดซึมทองแดงได้ยากขณะที่ขนาดตามเกณฑ์ RDA อยู่ที่ 11 มิลลิกรัมต่อวัน
หลุมบ่อที่ว่านั้นสาเหตุหลักๆก็เกิดมาจากสิวเจ้ากรรม กับการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการไปบีบ กด เค้นสิวแบบไม่รู้จักกาละเทศะ นึกจะบีบก็บีบ บีบแล้วหัวสิวมันไม่ออกสักที ก็พยายามบีบพยายามเค้นสิวมันอยู่นั่นแหละ ผลสุดท้ายก็ได้รับหลุมสิวมาให้เชยชมกันไป งามหน้ากันเลยทีนี้ ดร ยัง
เมื่อร่างกายจำเป็นต้องใช้วิตามินและแร่ธาตุในปริมาณสูงเช่นนี้ การอาศัยวิตามินและแร่ธาตุจากอาหารเท่านั้นย่อมไม่พอ จำเป็นต้องกินวิตามินและเกลือแร่เสริม (supplement) เป็นประจำ ผลการวิจัยได้ยืนยันว่าการกินแอนตี้ออกซิแดนท์ในขนาด mega–dose ช่วยชะลอความแก่และป้องกันโรคเสื่อมสภาพอื่นๆ ได้ เช่น
– คนกินวิตามินประจำ โดยเฉพาะวิตามินซี และวิตามินอี อายุยืนกว่าผู้ไม่กินหลายปี
– ระบบภูมิคุ้มกันโรคที่เสื่อมลงตามวัยสามารถฟื้นคืนสภาพได้ด้วยการกินวิตามิน ซึ่งอาจเป็นเพียงวิตามินรวมธรรมดา
– ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจมีแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียม ในเลือดและเซลล์ต่ำกว่าคนปกติ
– คนไข้มะเร็งก็เป็นเช่นเดียวกัน มีแอนตี้ออกซิแดนท์ คือ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน และซีลีเนียม ในเลือดและเซลล์ต่ำกว่าคนปกติ
– ขาดวิตามินบีต่างๆ ทำให้สมองเสื่อม หลอดเลือดไม่ดี หัวใจวาย และมะเร็งบางชนิด กินวิตามินบีแล้วป้องกันหรือลดอาการเหล่านี้ได้มาก ดร ยัง
– ขาดแคลนโครเมียมแม้เพียงน้อยนิดก็ทำให้เป็นเบาหวานและโรคหลอดเลือดหัวใจ
– กินแคลเซียมและวิตามินดีเสริมเพียง 1 ปี ช่วยป้องกันกระดูกหักได้มาก แม้ในผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป
– กินวิตามินเสมอ ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังลง 70 เปอร์เซ็นต์ และลดความเสี่ยงเป็นต้อกระจกลง 27 เปอร์เซ็นต์
ดร ยัง อย่างไรก็ดี การกินวิตามินและเกลือแร่เสริมในขนาดมากๆ ก็ถูกโต้แย้งว่า ส่วนที่เกินความจำเป็นของร่างกายจะสะสมมาก จนเป็นอันตรายได้ แต่ก็ยังพิสูจน์ลงไปได้ไม่แน่ชัดทั้งหมด มีเพียงบางตัวเท่านั้นที่ผลการวิจัยยืนยันว่า กินมากเกินไปมีพิษกับร่างกาย เช่น โครเมียม สังกะสี ซีลีเนียม และวิตามินเอ เป็นต้น แต่ขนาดที่พบว่าอาจเกิดผลกระทบกับร่างกายก็มักสูงกว่าขนาดมาตรฐาน เช่น พบว่ากินสังกะสีเกิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน ทำให้ร่างกายดูดซึมทองแดงได้ยากขณะที่ขนาดตามเกณฑ์ RDA อยู่ที่ 11 มิลลิกรัมต่อวัน
หลุมบ่อที่ว่านั้นสาเหตุหลักๆก็เกิดมาจากสิวเจ้ากรรม กับการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการไปบีบ กด เค้นสิวแบบไม่รู้จักกาละเทศะ นึกจะบีบก็บีบ บีบแล้วหัวสิวมันไม่ออกสักที ก็พยายามบีบพยายามเค้นสิวมันอยู่นั่นแหละ ผลสุดท้ายก็ได้รับหลุมสิวมาให้เชยชมกันไป งามหน้ากันเลยทีนี้ ดร ยัง